|
|
|
คู่มือทัวร์สวิตเซอร์แลนด์
|
|
|
|
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ความงดงามของทิวทัศน์
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงเรื่องความงดงามของทิวทัศน์ ภูเขา
และทุ่งหญ้า มาตรฐานความเป็นอยู่ที่สูง ธุรกิจธนาคาร นาฬิกา ผลิตภัณฑ์นมและเนย สถานที่ท่อง
เที่ยว ที่พักตากอากาศ และนโยบายเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน ชาวสวิสทั่วไปมีนิสัยรักความสงบ
ความ สะอาด เรียบร้อย และเป็นระเบียบ
เมืองหลวง ชื่อว่า กรุงเบิร์น ตั้งอยู่กลางทวีปยุโรป ล้อมรอบ ด้วยเทือกเขาแอลป์
เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล โดยมีทิศเหนือ ติดกับประเทศเยอรมนี ทิศตะวันออก ติดกับประเทศออสเตรียและลิคเตนสไตน์
ทิศใต้ติดกับประเทศอิตาลี ส่วนทิศตะวันตกติดกับ ประเทศฝรั่งเศส
การเดินทาง : ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางโดยรถไฟ เนื่องจาก
มีระบบรถไฟที่ครอบคลุมไปทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็นบนภูเขา ในชุมชน และวิ่งระหว่างเมือง
ส่วนใหญ่มี ความตรงต่อเวลาสูง เวลาขึ้นรถไฟนั้น ท่านไม่จำเป็นต้องโชว์ตั๋วรถไฟ หรือสอดตั๋วรถไฟเข้าเครื่องอ่าน
อัตโนมัติ สามารถเดินผ่านเข้าไปได้เลย โดยนานๆ จะมีนายตรวจขึ้นมาตรวจตั๋วบนรถไฟสักครั้งหนึ่ง
ค่ารถไฟที่สวิตเซอร์แลนด์นั้นถือว่าแพงมาก นักท่องเที่ยวควรซื้อ Swiss Rail Pass เพื่อความประหยัด
และสะดวกต่อการเดินทาง
ภาษาที่ใช้ : ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีภาษาราชการ 4 ภาษาด้วยกัน ได้แก่ ภาษาเยอรมัน
ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอิตาเลียน และภาษาโรมานซ์ (ภาษาละตินโบราณ) แต่จะใช้ภาษาเยอรมันกับ
ฝรั่งเศสเป็นหลัก ส่วนภาษาอังกฤษนั้น ชาวสวิสจะใช้พูดกันทั่วไปในตัวเมือง และตามแหล่งท่องเที่ยว
ต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ท่านอาจเจอคนไทย ที่อยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ค่อนข้างมาก
หรืออาจพบชาวสวิสที่สามารถพูดภาษาไทยได้บ้าง
เรื่องเวลา : เวลาที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จะช้ากว่าเวลาที่ประเทศไทย 5 ชั่วโมง
ดังนั้น ท่านจะต้องปรับเวลาเมื่อเดินทางถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วย
สภาพอากาศ - ภูมิอากาศของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ขึ้นอยู่กับระดับความสูงของพื้นที่ และมีลักษณะภูมิอากาศตั้งแต่ แบบแอลป์ ไปจนถึง แบบเมดิเตอร์เรเนียน
สำหรับฤดูใบไม้ผลิ สภาพอากาศที่นั่นกำลังเย็นสบายเลยค่ะ ถ้าอยู่ในเมือง อากาศจะอยู่ที่ประมาณ
15-20 องศาเซลเซียส แต่ถ้าขึ้นไปบนภูเขาสูงมีหิมะปกคลุม อุณหภูมิจะติดลบ เมื่อถึงฤดูหนาว
ในประเทศจะเต็มไปด้วยหิมะ และอาจมีฝนด้วยในบางครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่อุณหภูมิจะติดลบนะคะ
ส่วนฤดูร้อน อากาศจะอบอุ่นและ เย็นชื้น โดยอาจมีฝนตกบ้าง อุณหภูมิในช่วงฤดูนี้อาจสูงถึง
30 องศาเซลเซียสได้
ค่าเงิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ใช้สกุลเงินฟรังก์สวิส (CHF)
เทียบเป็นเงินไทยได้ ประมาณ 35 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับอัตราค่าเงินขณะที่ท่านแลก ธนบัตรสวิสมีมูลค่า
10, 20, 50, 100, 500, 1,000 ฟรังก์ เงินเหรียญมีมูลค่าตั้งแต่ 5, 10, 20, 50 เซนต์
(Centimes) และ 1, 2, 5 ฟรังก์ การแลกเปลี่ยนเงินตราในประเทศนี้ สามารถแลกได้ตามธนาคารทุกแห่ง
ท่าอากาศยาน สถานีรถไฟ ใหญ่ๆ รวมถึงโรงแรมในสวิตเซอร์แลนด์ทั่วไป แต่ท่านจะได้อัตราที่ดีที่สุดเมื่อแลกเปลี่ยนเงินที่ธนาคาร
ค่ะ ส่วนการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตภายในประเทศนี้ ควรเป็นบัตรที่ได้รับการยอมรับ เช่น
อเมริกัน เอ็กซ์เพรส วีซ่า และมาสเตอร์การ์ด
ระบบไฟฟ้า ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ใช้ระบบไฟฟ้าเหมือนกับบ้านเรา
คือ 250 โวลต์ สามารถใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ทุกชนิด แต่จะเป็นหัวปลั๊กแบบสามขา บางครั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าในเมืองไทย
ก็เป็นแบบสองขา เพราะฉะนั้น ท่านอย่าลืมนำหัวปลั๊กต่อเชื่อม หรือ Adapter ไปด้วย
ระบบโทรศัพท์ นักท่องเที่ยวสามารถใช้โทรศัพท์ที่ใดก็ได้ทั่วประเทศ
และยังสามารถ โทรไปที่ต่างๆ ทั่วโลกได้เช่นกัน โดยการหมุนหมายเลขรหัสประเทศนั้น ตามด้วยหมายเลขเมือง
และ เบอร์โทรของประเทศไทยคือ 0066 + จังหวัด + หมายเลขโทรศัพท์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีบริการ
โทรศัพท์ทางไกล ทั้งชนิดหยอดเหรียญและใช้การ์ดโฟน หรืออีกวิธีหนึ่ง คือ การเปิด Roaming
แต่ ก่อนเปิดใช้งานจะต้องไปแจ้งทางเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของท่านก่อน
ข้อแนะนำพิเศษ ยารักษาโรคประจำตัว ยาดม ยาแก้ปวดเมื่อย
ยาแก้ปวดหัว ควร เตรียมไปเองนะคะ เพราะการซื้อยาที่สวิสเซอร์แลนด์ค่อนข้างยุ่งยาก การที่จะไปซื้อตามร้านขายยา
แล้วได้รับเลยอย่างที่บ้านเราไม่สามารถทำได้ ที่นั่น ท่านจะต้องมีใบสั่งยาจากหมอก่อน
แล้วค่อยเอา ใบสั่งไปยื่นที่ร้านขายยา ซึ่งจะทำให้เราเสียเวลาในการท่องเที่ยวไปมากทีเดียว
แหล่งช๊อปปิ้ง สถานที่ช้อปปิ้งในเมือง Interlaken โด่งดังมากด้านงานฝีมือทุกชนิด
ตั้งแต่ผ้าปัก ไม้แกะสลักไปจนถึงของที่ระลึกจำนวนมาก แต่ถ้าอยากไปซื้อนาฬิกาเลื่องชื่อของที่นี่ท่าน
จะต้องไปที่เมือง Luzern ชื่อนี้เป็นที่คุ้นหูคนไทยมากที่สุด เพราะเป็นเมืองที่นาฬิกาโรเล็กซ์ขายดีที่สุด
รองลงมาคือมีดพก (Swiss Army Knives)
|
เมือง Lucerne
เมือง Lucerne หรือที่เขียนกันในภาษาท่องถิ่นว่า Luzern เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่งของ
สวิตเซอร์แลนด์ และเป็นเมืองต้นกำเนิดของทะเลสาบ Lucerne โดยเริ่มจากแม่น้ำสายเล็กๆ
ที่ชื่อว่า แม่ว่า Reuss จากนั้นความกว้างของแม่น้ำก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนกลางเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่
ตั้งของเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เช่น เมือง Weggis, Küssnacht รวมถึงยอดเขา Patilus ดังนั้นในบทนี้ก็
จะบอกเล่าถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณทะเลสาบ Lucerne เอาไว้ด้วย
สะพานไม้ Kapellbrücke เป็นสะพานไม้เก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1333 โดยสร้างขึ้นเมืองป้องกัน
เมือง Lucerne จากการจู่โจมของข้าศึก ต่อมาภายหลังสะพานไม้แห่งนี้ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ
เมือง Lucerne และสะพานไม้นี้ ยังถือว่าเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย
Kapellbrücke มี ความยาวทั้งสิ้น 204 เมตร บริเวณคานของสะพานไม้จะมีการนำภาพวาดที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ
ประวัติของเมือง Lucerne มาแขวนประดับไว้ ต่อมาในปี 1993 ได้มีการซ่อมแซมบูรณะสะพานใหม่
เนื่องจากเดินไฟไหม้ขึ้น สิ่งก่อสร้างอีกอันหนึ่งที่อยู่เคียงข้างสะพาน Kapellbrücke
มาตลอดตั้งแต่สมัย คริสตศษวรรษที่ 14 ก็คือ Water tower หรือ Wasserturm ซึ่งมีลักษณะเป็นหอคอยสูง
104 ฟุต สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่เป็นหอสังเกตการณ์และที่คุมขังนักโทษ แต่ปัจจุบันนี้ทั้งสะพานไม้และหอคอยต่าง
ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนหลั่งไหลมาเที่ยวและถ่ายรูปเป็นอันดับต้นๆ ของสวิตเซอร์แลนด์เลยที
เดียว ปัจจุบันด้านนอกของสะพานไม้ก็มีการนำดอกไม้สีแดงสดไม้มาปลูกประดับประดาตลอดทั้ง
ความยาวของสะพาน
อนุสาวรีย์สิงโต (Loewendenkmal or Lion Monument)
อนุสาวรีย์สิงโต (Loewendenkmal or Lion Monument) สร้างขึ้นเป็นสัญลักษณ์ เพื่อระลึกถึงทหารสวิส
ซึ่งทำงานเป็นทหารรักษาพระองค์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ซึ่ง ทหารสวิสนั้นมีชื่อเสียงในด้านความกล้าหาญ
องอาจ ซื่อสัตย์ และจงรักภักดีแม้กระทั่งทหารที่เฝ้าหน้าพระราชวังวาติกันก็ ยังต้องเป็นทหารสวิส
เมื่อพิศดูสิงโตตัวนี้ จะเห็นว่าเขาได้แกะ สลักอยู่บนหน้าผาหินในลักษณะนอนหมอบ มีหอกปักอยู่กลาง
หลัง สีหน้าแสดงความเจ็บปวดและเศร้าสร้อย
|
|
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
กรุ๊ปทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ แนะนำ
|
|
|